I wonder if ใช้อย่างไร
ใครทำงานแล้วคงได้เห็นเยอะอยู่กับ "I wonder if".. ดูแล้ว อ่านแล้วสวยไฮโซทีเดียวนะ อย่างเช่น I wonder if he is an engineer. I wonder if you like it. เจอ I wonder if แบบนี้ให้รู้ไว้เลยจ๊ะว่าเค้าถามคำถามนะคะ ถึงแม้ว่าประโยคจะไม่มีเครื่องหมาย ? ก็ตาม นั่นก็เพราะ I wonder if แปลว่า "ไม่แน่ใจว่า ... รึเปล่า" ซึ่งเป็นคำถามในตัวค่ะ หลายคนอาจนึกว่า เอ๊ะ.. แล้วถ้าอย่างนี้ Do you like it? จะเหมือนกับ I wonder if you like it. มั้ย หรือ Is he an engineer? เหมือนกับ I wonder if he is an engineer. มั้ยนะ คำตอบคือเหมือนเด๊ะเลยในแง่ความหมายค่ะ แต่เค้าต่างเล็กๆ ก็แค่ตรงการสื่ออารมณ์ของคำถาม.. การมี I wonder if มันทำให้การถามดูซอฟท์ลงนิดนึง เหมือนเราพูดภาษาไทยแบบนี้น่ะค่ะ.. พรุ่งนี้คุณว่างมั้ย => ไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้คุณว่างมั้ย ลดได้มั้ย => ไม่แน่ใจว่ายังลดได้มั้ย เห็นมั้ยคะ แบบมี "ไม่แน่ใจว่า" ดูซอพท์ขึ้นมาเป็นกอง นั่นคือหน้าที่ของ I wonder if ในภาษาอังกฤษนั่นเอง ทีนี้ถ้าจะเอามาใช้บ้างอะไรบ้าง ก็ง่ายมากๆ ค่ะ ใช้เป็น I wonder if + ประโยคที่จะถาม เช่น I wonder if he is free. ไม่แน่ใจว่าเค้าว่างมั้ยนะ I wonder if your team likes the design. ไม่แน่ใจว่าทีมงานคุณชอบดีไซน์มั้ยครับ I wonder if you can give more discount. ไม่แน่ใจว่าคุณจะพอลดได้อีกมั้ย Tip: นิดเดียวคือประโยคที่จะถามเนี่ยเราเขียนเป็นประโยคบอกเล่าปกติเลยนะคะ subject + verb + object ไม่ต้องผันเป็นคำถามใดๆ ทั้งสิ้น และก็ไม่ต้องมี ? ตอนจบด้วยนะ เพราะ I wonder if ทำหน้าที่ถามให้แล้วเรียบร้อยในรูปประโยคบอกเล่าจ๊ะ.. การใช้แบบนี้หลักภาษาอังกฤษเรียกว่า Indirect Question ค่ะ คือการถามอ้อมๆ นั่นเอง วันนี้มีโอกาสถามอะไรใคร ลองใช้ I wonder if สิคะ
Related Posts
See Allเจอกันได้บ่อยเท่าที่ต้องการและไม่ต้องการเลยใช่มั้ยคะคำนี้ บางทีอ่านๆ เนื้อเรื่องอยู่กำลังเข้าใจอยู่แล้วเชียว คำนี้ก็โผล่มาทำให้งงซะงั้น...