"As" ใช้อย่างไร? (ตอนจบ)
มาถึงตอนสุดท้ายของการใช้คำว่า ‘as’ แล้วนะจ๊ะ จะว่าไปก็ไม่ได้หมายความว่าหมดแล้วนะคะ เพราะ as มีการใช้เยอะมากซะจริงๆ แต่คิดว่าคัดมาเฉพาะที่ได้ใช้กันเยอะๆ ดีกว่า สำหรับวันนี้ก็เป็นตอนที่ห้ามพลาดนะคะ โดยเฉพาะในข้อ <9> จ๊ะ
<8> as though/if : คำเชื่อม = ราวกับว่า
1. ใช้กับสิ่งที่มันดูจะเป็นไปไม่ได้ จะใช้ past tense “เสมอ” ในประโยคที่เป็นเรื่องราวกับว่า เช่น
He looks as if he saw a ghost.
เค้าดูท่าทางราวกับว่าไปเจอผีมาเลย
2. ใช้กับสิ่งที่ดูจะเกิดขึ้นได้จริงๆ ใช้ present tense ตามธรรมดา เช่น
We talk as if we will not see each other again.
เราคุยกันอย่างกับว่าเราจะไม่เจอกันอีกอย่างงั้นแหละ
<9> as ในสำนวนเฉพาะ
-- as is = ตามที่เป็น
(ไม่ต้องตกใจที่ไม่มีประธานอยู่หน้า ‘is’ นะจ๊ะ สำหรับความหมายนี้ถูกแล้วค่ะ)
I will sell the car as is.
ฉันจะขายรถตามสภาพที่เป็น (คือไม่ปรับแต่ง)
-- as usual = ตามปกติ
The manager will lead the meeting as usual.
ผู้จัดการจะเป็นคนนำการประชุมเหมือนปกติ
-- as of/from = ณ วันที่
The information here is as of August 10, 2011 only.
ข้อมูลนี้ถึง ณ วันที่ 10 ส.ค. 2554 เท่านั้น
(อันนี้เน้นนิดนะคะ เห็นบ่อยๆ ที่คนใช้ผิดเป็น as at)
-- as per = ตามที่ + noun
As per your advice, I take the Professor John’s class.
ตามที่เธอแนะนำฉัน ฉันก็เรียนกับอาจารย์จอห์น
-- such as = ยกตัวอย่างเช่น
There are many nice packages for you to choose such as Platinum, Gold, Silver, etc.
เรามีแพคเก็จดีๆ หลายแบบให้เลือก เช่น แพลตทินั่ม โกลด์ ซิลเวอร์ เป็นต้น
-- as such = อย่างนั้น/อย่างที่ว่ากัน (อยู่หลัง noun)
She does not accept the price as such. We need to reduce it.
เค้าไม่ยอมรับราคาตามนั้น เราคงต้องลดราคาลง
(เปรียบเทียบกับการใช้ that ที่เราคุ้นเคยก็ได้ She does not accept that price.)
Our store does not carry the bag as such. I am sorry about that.
ร้านของเราไม่มีกระเป๋าอย่างที่ว่า ขอโทษด้วยค่ะ
(เปรียบเทียบกับการใช้ that ที่เราคุ้นเคยก็ได้ Our store does not carry that bag.)
อย่างที่ว่านะคะ ยังมี as อยู่ในประโยคอีกหลายรูปแบบ แต่ที่เขียนมาทั้ง 4 ตอนก็เป็นแบบที่เราจะได้เห็นกันบ่อยๆ ใช้เขียนได้บ่อยๆ ถ้าเจอแบบอื่นแล้วไม่เข้าใจก็เขียนมาถามกันได้นะจ๊ะ
Let me end the posts about ‘as’ as such. :))